เทคนิคการขึ้นเรือน
การขึ้นเรือน (mounting)
การทำเรือนหุ้มชิ้นงานด้วยเรซิ่น
มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อความสะดวกในการจับถือ
และการเตรียมชิ้นงานในขั้นตอนต่างๆก็จะสามารถทำได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
จะขึ้นเรือนร้อนหรือเย็นดี
- การขึ้นเรือนแบบร้อน (Hot mounting) เรซิ่นจะถูกอัดด้วยแรงกดสูง และความร้อน
จนแข็งรอบตัวชิ้นงานเรซิ่นที่ใช้มีอยู่ 2 ประเภทคือ
- เทอร์โมเซทติ้งเรซิ่น (Thermosetting
resins)
เป็นเรซิ่นที่หลอมตัวภายใต้ความดันและอุณหภูมิ
ที่สูงขึ้น บางครั้งเราเรียกว่า Duroplastics
- เทอร์โมพลาสติกเรซิ่น (Thermoplastic
resins)
เป็นเรซิ่นที่หลอมตัวภายใต้อุณหภูมิที่สูงและจะ
แข็งตัวเมื่อเย็นลง
ถึงแม้เทอร์โมเซทติ้งเรซิ่นจะสามารถเอาออกมาจากเครื่อง mount
ที่อุณหภูมิสูง ได้ก็ตาม
แต่ก็ควรรอให้เย็นลงจนถึงอุณหภูมิห้องเสียก่อน
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการหดตัวน้อยที่สุดและ
คงสภาพระหว่างเรซิ่นกับชิ้นงานเอาใว้
- การขึ้นเรือนแบบเย็น (Cold mounting) ชิ้นงานจะถูกวางในแบบหล่อ แล้วจึงเทเรซิ่นซึ่งจะผสมสาร 2-3
ชนิดตามอัตราส่วนน้ำหนักหรือ
ปริมาณที่กำหนดกวนจนเป็นเนื้อเดียวกันจากนั้นค่อยเทใส่แบบ Cold
mounting มีอยู่ 3 ชนิดคือ
- อีป๊อกซี (Epoxy)
มีการหดตัวต่ำสุดระยะเวลาในการเซทตัวนาน
แต่มีแรงยึดเกาะระหว่างชิ้นงาน กับเรซิ่นดีมาก
สามารถใช้กับระบบสูญญากาศได้ เมื่อแข็งตัวแล้วจะเป็น
Duroplastic
- อะครีลิค (Acrylic)
มีความสะดวกในการใช้งานเวลาในการเซทตัวและหดตัวน้อย
จะแข็งตัวโดย การเติมสารทำให้แข็งตัว
และเมื่อแข็งตัวแล้วจะเป็น Thermoplastic และทนสารเคมี
- โพลีเอสเตอร์ (Polyester)
มีลักษณะคล้ายๆอะครีลิค
แต่เวลาในการแข็งตัวน้อยเมื่อแข็งตัวแล้วจะ เป็น Duroplastic
การเลือกเทคนิคในการขึ้นเรือน
- Hot mounting เหมาะกับงานที่มีจำนวนมากและต้องการคุณภาพสูง
ขนาดและรูปร่างแน่นอน อีกทั้งใช้เวลาในการ mount สั้นอีกด้วย
- Cold mounting เหมาะกับชิ้นงานที่มีรูพรุน มีความอ่อนมากๆ
ชิ้นงานที่ไม่ทนต่อความร้อน ไม่ทนต่อแรงดัน
อีกทั้งชิ้นงานจะไม่เป็นอันตรายอันเนื่องจากสารเคมี
- โพลีเอสเตอร์ (Polyester) มีลักษณะคล้ายๆอะครีลิค แต่เวลาในการแข็งตัวน้อย
เมื่อแข็งตัวแล้วจะ เป็น Duroplastic
รูปที่ 1: เครื่องขึ้นเรือนแบบร้อน
|